Sculptra คือตัวยา PLLA (Poly-L-Lactic acid) สารประกอบโพลีเมอร์
ทางการแพทย์ ที่มีความสามารถในการ เหนี่ยวนำเซลล์ในชั้นผิว (Fibroblast)
ให้มาเกาะกลุ่มและสร้างเส้นไยคอลลาเจนใหม่ตามมา
แรกเริ่มเดิมที PLLA ใช้ในวงการแพทย์โดยการนำมาผลิตเป็นเส้นไหมที่ใช้เย็บอวัยวะภายใน เช่น การผ่าตัดทรวงอก และช่องท้องต่าง ๆ
การพัฒนาเพื่อใช้ทางการแพทย์ผิวหนังและความงาม
โดยการทำให้อนุภาค PLLA มีความเป็นผงเล็กละเอียดเทคนิคในการทำละลาย
การฉีดกระจายไว้ใต้ผิว ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการฟื้นคืนคุณภาพผิวได้
อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติ
อนุภาคของ Sculptra ที่ถูกทำละลายจะกระจายตัวไปที่ใต้ผิวหนัง
เหนี่ยวนำให้เกิดการซ่อมแซม สร้างใหม่ของเส้นใยคอลลาเจน
ที่ชั้นผิวอย่างเป็นระเบียบ
จากงานวิจัยพบว่า Sculptra สามารถช่วยกระตุ้นให้ผิวกลับมาทำงานผลิต Collagen type 1 ได้สูงถึง 66.5% หลังทำการรักษไปแล้ว 3 เดือน
ใช้แก้ปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย จากการที่มีปริมาณคอลลาเจนลดลงซึ่งอาจจะสังเกตได้จาก
จากข้อมูลที่พบว่า หลังจากอายุ 25 ปี ผิวหนังจะมีการเสื่อมลดลง
ของคอลลาเจนเฉลี่ยปีละ 1.5% จากงานวิจัยถึงประสิทธิภาพที่ Sculptra สามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนได้ จึงประมาณปริมาณผลิตภัณฑ์ใช้
เฉลี่ย 1 ขวด(Vial) ต่ออายุที่เพิ่มขึ้น 10 ปี
ตัวอย่างเช่น อายุ 34 ปี จะแนะนำทำการรักษาที่ประมาณ 3 ขวด
โดยอาจจะแบ่งการรักษาเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 1-2 ขวด ห่างกัน 4-6 สัปดาห์
โดยรายละเอียดเชิงลึกแล้ว หมอจะใช้ Sculptra เพื่อแก้ปัญหาผิวและรูปหน้า
แตกต่างจากการใช้โบท็อกซ์และฟิลเลอร์โดยสิ้นเชิง
เพราะมีกลไกลในการออกฤทธิ์ จำเพาะกับเนื้อเยื่อใบหน้าที่แตกต่างกัน
โดยหมอจะเลือกใช้โบท็อกซ์เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ
เช่น กล้ามเนื้อใบหน้าที่ก่อให้เกิดริ้วรอยหน้าผาก ตีนกา
หรือกล้ามเนื้อกล้ามที่ทำให้ใบหน้าดูใหญ่
เลือกใช้ฟิลเลอร์เพื่อทดแทนโครงสร้างใบหน้าที่เป็นกระดูก
และไขมันชั้นลึกที่ทรุดตัวลงและก่อให้เกิดร่องลึก ความหย่อนคล้อย
และใช้ Sculptra เพื่อแก้ปัญหาในโครงสร้างผิวหนังที่เสื่อมสภาพตามวัย
ทั้งนี้การผสมผสานการรักษาหรือลำดับการรักษาตามความสำคัญและจำเป็น
จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคนไข้ ร่วมกับดุลยพินิจของหมอ
การแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ต้องทำการวิเคราะห์ปัญหาตามสรีระใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยของแต่ละบุคคล ซึ่งการขาดหายไปของคอลลาเจนนั้นเป็นส่วนนึง
โดยคอลลาเจนบนใบหน้านั้น เป็นองค์ประกอบหลักของชั้นผิวหนัง (skin/dermis)
และชั้นกล้ามเนื้อเส้นเอ็นยกพยุงผิว (SMAS) เป็นองค์ประกอบรองที่แทรกตัวอยู่ระหว่างไขมันใต้ผิว(Subcutaneous)
จุดเด่นของ Sculptra คือมีข้อมูลว่าสามารถเพิ่มปริมาณคอลลาเจนที่ชั้นผิวหนังได้สูงกว่าการใช้เครื่องยกกระชับต่าง ๆ
แต่ข้อจำกัดของ Sculptra คือไม่สามารถฉีดเพื่อเพิ่มปริมาณคอลลาเจนที่ชั้นที่ลึกกว่าผิวหนัง